คุณถาม-เราตอบ
 

 
 


 
 
  1. ทำไมต้องทำประกันภัยรถยนต์ผ่านบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ จำกัด ?
  2. ไม่มีบัตรนายหน้าประกันภัย จะขายประกันภัยได้เหรอ ?
  3. ทำประกันภัยผ่านบริษัทโบรกเกอร์กับบริษัทประกันภัยโดยตรง แตกต่างกันอย่างไร ?
  4. แล้วนายหน้าประกันภัยเครือข่ายที่อื่นกับบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ?
  5. ทำไมเราไม่เปิดบริษัทนายหน้าประกันภัย หรือ เป็นนายหน้าประกันภัยเสียเลย จะได้ไม่ต้องผ่านบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์  ให้เสียเวลาและหักหัวคิวเปอร์เซ็นจากเราทำไม ?
  6. แผนรายได้มุ่งเน้นให้ค่าคอมมิชชั่นแก่ตัวแทนขายมากกว่าตัวแทนขยายงาน จึงไม่ค่อยเกิดแรงจูงใจที่จะขยายงาน เราจะมามุ่งเน้นขายประกันดีกว่าไม๊ ?
 
     
 

1. ทำไมต้องทำประกันภัยรถยนต์ผ่านบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ จำกัด ?
ท่านอาจจะสงสัยว่า บริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์  คือบริษัทอะไร  ขอเรียนว่า บริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ ไม่ได้ผลิตพรบ หรือประกันภัยรถยนต์ หรือประกันวินาศภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-motor) เป็นของตัวเอง เหมือนบริษัทประกันภัยอื่น เช่น วิริยะ, MSIG เป็นต้น แต่เป็นนายหน้านิติบุคคลประกันวินาศภัยโดยตรง ที่ได้รับลายเส้นถูกต้องตามกฎหมายด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาทชำระเต็มจำนวน และได้ดำเนินเงินสำรองตามกฏเกณฑ์ของคปภ. เพื่อเป็นการยืนยันถึงฐานะการเงินและความแข็งแกร่งของธุรกิจ และเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคง สำหรับผู้เอาประกัน เพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกค้า เลขที่ใบอนุญาต ว00037/2551 กล่าวคือกฎหมายกำหนดไว้ บุคคลหรือนิติบุคคลใดจะประกอบธุรกิจเป็นผู้ชี้ช่อง แนะนำให้ผู้ใดมาซื้อประกันภัยนั้น จะต้องได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เท่านั้น ถ้าไม่รับได้อนุญาตจะผิดกฎหมาย  ดังนั้นบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ จำกัด จึงเป็นบริษัทนายหน้า ประกันวินาศภัย ที่ได้อนุญาตจากคปภ.ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ประกอบธุรกรรมด้านประกันภัย ตามกฏระเบียบและการควบคุมดูแลของ คปภ. จึงมีสิทธิ์เป็นผู้ชี้ช่องแนะนำประกันได้ทุกบริษัทประกันภัย และตามกฎหมาย โดยบริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าแนะนำ (ค่าคอมมิชชั่น) ให้ผู้แนะนำด้วยโดยกำหนดขั้นต่ำไว้ตามกฎหมาย

ทางไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เป็นโบรคเกอร์ ที่มีบริษัทประกันภัยเข้าร่วมโครงการกับเรามากกว่า 25 บริษัท โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มยอดขายให้ถึง 1,500 ล้านภายในระยะเวลา 1 ถึง 2 ปีที่จะถึงนี้ ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ถือว่าไม่ได้สูงเกินความเป็นจริง เนื่องจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่เป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ คือ ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ ของเรามีบริษัทประกันภัย ในโครงการที่มากกว่า เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และคาดว่าจะมากกว่านี้ในอนาคต ลูกค้าหรือสมาชิกสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประกันภัย โดยไม่ต้องยึดติดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพื่อให้ท่านอุ่นใจ สบายใจด้วยการเติบโตอย่างมั่นคง และบริการดีเยี่ยม ดั่งสโลแกนที่ว่า " ทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อคุณ "

          


[to top]

2. ไม่มีบัตรนายหน้าประกันภัย จะขายประกันภัยได้เหรอ ?

ท่านขายได้ในนามบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เพราะเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลคะ  แต่ถ้าเมื่อท่านต้องการเปิดสำนักงานประกันภัยขึ้นป้ายหน้าร้าน อันนี้จึงค่อยไปสอบนายหน้าประกันวินาศภัย เพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ของคปภ. ต่างจังหวัดสอบเดือนเว้นเดือนสลับกับการสอบกับประกันชีวิต ถ้าที่กรุงเทพมีเปิดสอบทุกเดือนคะ  ต่างจังหวัดสมัครได้ที่คปภ.ในแต่ละจังหวัด  ถ้าที่กรุงเทพก็ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) 22/79 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900  โทรศัพท์ 0-2515-3999 โทรสาร 0-2513-1466 เว็บไซต์ www.oic.or.th หรือสายด่วนประกันภัย 1186


[to top]

3. ทำประกันภัยผ่านบริษัทโบรกเกอร์กับบริษัทประกันภัยโดยตรง แตกต่างกันอย่างไร ?
ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่า การทำประกันภัยผ่านบริษัทโบรกเกอร์ จะมีการแนะนำได้หลายบริษัทให้ลูกค้าเปรียบเทียบ ซึ่งลูกค้าสามารถจะเลือกทำกับโบรกเกอร์หรือบริษัทประกันโดยตรงก็ได้ แต่สำหรับข้อดีอีกอย่างสำหรับการส่งงานประกันผ่านโบรกเกอร์ คือ หากท่านติดปัญหาเรื่องการเคลม ท่านสามารถให้ ทางไอบีเอสซี โบรคเกอร์ ช่วยเจรจาได้


[to top]

4. แล้วนายหน้าประกันภัยเครือข่ายที่อื่นกับบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ?
ขอเรียนให้ทราบว่า ทั้งนายหน้าประกันภัยเครือข่ายที่อื่นและบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เหมือนกัน แต่ทำการตลาดต่างกัน  เมื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับก็แตกต่างกัน จากที่ทางไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เสนอขายตามตารางค่าคอมมิชชั่นที่ให้มานั้น ซึ่งทางไอบีเอสซี โบรคเกอร์ของเราก็เคยขายให้ทีมงานประกันภัยเครือข่ายมาก่อนแล้วนั้น เขาก็เปลี่ยนมาร่วมทำธุรกิจกับทางไอบีเอสซีของเรากันทั้งนั้น  ดังนั้นทีมงานขายอีกทีมนั้น จะโดนเก็บค่าหัวคิวอีกที  แต่ทางบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ ของเรา ไม่มีใครเก็บหัวคิวคุณอีก นอกจากนี้ทางทีมงานขายทีมนั้นก็ถูกเก็บค่าหัวคิว 2 ต่อ ต่อแรก เป็นบรรดาสายงานหัวหน้าทีมงานของเขาเอง อีกต่อก็คือ บริษัทโบรกเกอร์  สรุปฟันธงว่า คุณก็ยังมีสถานะเป็นซับ (SUB) เหมือนกับทีมงานประกันภัยเครือข่ายนั้น ต่างกับบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ ของเราที่มีศักดิ์ศรีและผลตอบแทนดีกว่าตัวแทนประกันภัยเครือข่ายทีมงานอื่นอย่างแน่นอน 100%

ข้อควรระวัง!!! สำหรับผู้ขยายธุรกิจเครือข่ายของตนเอง ถ้าหากว่าสมาชิกไม่รักษาอายุสมาชิก คือ ไม่ส่งงานอย่างน้อย 1 ชิ้นต่อปี สมาชิกที่ไม่มียอดขายจะถูกตัดโค๊ตในปีถัดไป นั่นคือ ออกจากสายงานผู้แนะนำทันที มาเป็นสายงานโดยตรงของบริษัท/ผู้แนะนำ ถ้าสมาชิกนั้นยังกลับมาส่งงานอีกครั้ง  ทำให้ผู้ขยายธุรกิจเสียผลประโยชน์โดยสิ้นเชิง ถือเป็นการเอื้อประโยชน์จากผลพลอยได้ของระบบเครือข่ายต่อบริษัท ไอบีเอสซี โบรกเกอร์/ผู้แนะนำ


[to top]

5. ทำไมเราไม่เปิดบริษัทนายหน้าประกันภัย หรือ เป็นนายหน้าประกันภัยเสียเลย จะได้ไม่ต้องผ่านบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์  ให้เสียเวลาและหักหัวคิวเปอร์เซ็นจากเราทำไม ?
ถ้าท่านสอบใบนายหน้าได้ ท่านก็จะเป็นนายหน้าบุคคลธรรมดา มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะชี้ช่องขายประกันภัยจากบริษัทต่างๆ  ซึ่งท่านก็จะได้ค่าแนะนำ (คอมมิชชั่น) ที่กำหนดไว้  แต่จะได้เท่าไหร่หล่ะ อันนี้ฟันธงลงไปเลยว่าท่านได้น้อยกว่าทีมงานของ ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ แน่นอน เพราะอะไรเหรอ ก็เพราะว่าบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ มียอดนำส่งเบี้ยประกันภัยให้บริษัทประกันภัยสูงนั้นเอง  จึงมีอำนาจต่อรองค่าคอมมิชชั้นให้ได้สูงนั้นเอง ถึงแม้ว่าทางบริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ จะหักค่าคอมฯ ไว้บางส่วน เพื่อนำไปเป็นค่าจ้างพนักงาน และค่าสนับสนุนทีมงาน เมื่อคิดดูแล้วท่านก็ยังได้รับค่าคอมฯมากกว่าที่ท่านได้จากการติดต่อกับบริษัทประกันภัยเอง อีกทั้งยังมีให้เลือกหลายบริษัทด้วย

หากเปรียบเทียบการซื้อประกันภัยเป็นแก้วน้ำ นั่นก็คือ ถ้าท่านต้องการซื้อแก้วที่ร้านค้าทั่วไปขายใบละ 10 บาท หากซื้อผ่านบริษัทฯจะซื้อได้ใบละ 6 บาท จะได้ทั้งของดี และราคาถูกกว่าที่อื่น โดยในตอนนี้บริษัท ไอบีเอสซี โบรคเกอร์ เป็นบริษัทที่มียอดนำส่งเบี้ยประกันสูง และกำลังจะเติบโตก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ซึ่งแนวโน้มก็น่าจะเป็นอย่างนั้น  เพราะอะไรน่ะเหรอเพราะเรากำลังจะได้ท่านเป็นทีมงาน ซึ่งก็จะมากขั้นเรื่อยๆ  อย่างนั้นเบี้ยประกันจะต้องสูงขั้นเป็นเงาตามตัวอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วสิ่งที่จะได้รับคือผลตอบแทนที่เป็นคอมมิชชั่นที่จะมากตามมา  ถึงอย่างนี้ท่านจะรอทำไม!!!  ทำไมยังลังเลมาเป็นหนึ่งในทีมงานของเราอีก


[to top]

6. แผนรายได้มุ่งเน้นให้ค่าคอมมิชชั่นแก่ตัวแทนขายมากกว่าตัวแทนขยายงาน จึงไม่ค่อยเกิดแรงจูงใจที่จะขยายงาน เราจะมามุ่งเน้นขายประกันดีกว่าไม๊ ?
เนื่องจากแผนรายได้อ้างอิงจากสถานการณ์จริง ตามที่ควรจะเป็นค่ะ ไม่ได้อ้างอิงจากบริษัทประกันภัยอื่น เพราะตัวแทนขายประกันของไอบีเอสซี โบรคเกอร์ มีหน้าที่หาลูกค้า ซึ่งเขาสมควรที่จะได้รับค่าคอมมิชชั่นในส่วนนี้อยู่แล้วค่ะ หากในแต่ละตัวแทนขายก็จะมีจำนวนชั่วโมงการทำงานที่จำกัดอยู่แล้ว ส่วนตัวแทนขยายงานมีระบบของแผนรายได้ที่มารองรับเพื่อให้คนแต่ละคนเสมือนมีจำนวนชั่วโมงการทำงานที่มากขึ้นด้วยค่ะ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น สมมติว่าแต่ละคนจะสามารถขายประกันภัยได้วันละ 1,000 บาท เท่ากันนะค่ะ เพราะฉะนั้น คนหนึ่งคนจะสามารถมียอดขายได้เต็มที่ 30,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น  ถ้าได้ค่าคอมมิชชั่น 10% เขาก็จะมีรายได้เดือนละ 3,000 บาทเท่านั้น และก็ไม่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นกว่านี้ได้ค่ะ แต่ถ้าคนนั้นสามารถสร้างและขยายทีมงานได้เพิ่มเพียงวันละ 1 คน ในหนึ่งเดือนจะมีตัวแทนเพิ่มขึ้น 30 คน และทุกคนขายเหมือน ๆ กัน ในเดือนนั้นเขาจะมียอดขายทีมงานทั้งสิ้น 30 วัน x 30,000 บาท = 900,000 บาท และสมมุติต่อไปอีกว่าคิดเฉพาะค่าแนะนำ 1.0% ในเดือนนั้น เขาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 9,000 บาทค่ะ  ซึ่งในรายได้ส่วนนี้ก็ยังไม่ได้รวมในกรณีที่มียอดขายเพิ่มขึ้น ทำให้ได้ปรับตำแหน่งและรายได้เพิ่มขึ้นนะค่ะ ถ้าในกรณีเช่นนี้อย่างน้อยก็มีค่าบริหารเพิ่มขึ้นอีก 2% ค่ะ  

ถ้าหากทางไอบีเอสซี โบรคเกอร์ ปรับเพิ่มในส่วนค่าแนะนำ หรือค่าบริหารขึ้น ก็จะมีผลทำให้ต้องปรับลดค่าคอมมิชชั่นของคนขายลดลง ก็มีตัวอย่างจริงๆเกิดขึ้นให้เห็นบ้างแล้วนะค่ะ ว่าจูงใจให้คนขยายงานได้มากแค่ไหน จำนวนคนใหม่มียอดมากมาย แต่ผลสุดท้ายค่าคอมมิชชั่นที่น้อยเกินไปของคนที่เพิ่งสมัครเข้ามาใหม่ๆ ก็ไม่สามารถทำให้คนขายใหม่ คนนั้นเขาอยู่ได้เช่นกัน จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขาย ทำให้ไม่ค่อยมียอดขายโตขึ้นตามยอดสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มที่ควรจะเป็นไป แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ทั้งค่าแนะนำและค่าบริหาร จะคำนวณมาจากยอดขายที่ไหนค่ะ ...


[to top]